ลิ้งค์เชื่อมต่อ

‘พีท พีรพงศ์ เพิ่มแสงงาม  ตำรวจไทยหัวใจแกร่งแห่ง LAPD


Pete Phermsanngam, American-Thai LAPD
Pete Phermsanngam, American-Thai LAPD

รู้จัก ชีวิต ความคิด และการทำงาน ของ พีท พีรพงศ์ เพิ่มแสงงาม นายตำรวจนครลอสแอนเจลิสเชื้อสายไทย ขวัญใจชาวชุมชนไทยในนครลอสแอนเจลิส ที่เพิ่งตัดสินใจเกษียณอายุ อำลาหน้าที่การเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ที่เขาภูมิใจมายาวนานกว่า 35 ปี ไปอย่างน่าประทับใจ และทิ้งผลงานไว้อย่างมากมายให้กับชุมชนไทยในอเมริกา

“ การที่เราได้มาเป็นตำรวจแล้วเราไปเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์แล้วเราช่วยคดีมาหลายคดี ไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือหรือคนที่แอลเอ (ลอสแอนเจลิส) มันให้ความภูมิใจและความอิ่มใจของผมเพราะว่าถ้าเราทำงานมา 100% แล้วเรามีจรรยาบรรณของหน้าที่การงานของเราแล้วทำมาได้ ระยะไกล ..

..ผมเชื่อนะครับว่าถ้าเราทำงานแล้วจะสมบูรณ์ เราสามารถที่จะเปลี่ยนสภาพชีวิตของชุมชนได้เพราะถ้าเกิดอาชญกรรมน้อยลง ยาเสพติดน้อยลง สภาพของชีวิตของชุมชนในครอบครัวดีขึ้นนะครับ ผมก็คิดว่าอันนี้เป็นสิ่งที่ผมภูมิใจมากที่ได้มาเป็นตำรวจมาเกือบ 35 ปีครับ.. “

พีท พีรพงศ์ เพิ่มแสงงาม เจ้าหน้าที่ ตำรวจนครลอสแอนเจลิส (Los Angeles Police Department-LAPD) เชื้อสายไทย วัย 58 ปี กล่าวกับ ‘วีโอเอ ไทย” ถึงความภูมิใจของการทำหน้าที่ ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ในฐานะคนเชื้อสายไทยคนแรกๆ ในแผนกตำรวจของนครลอสแอนเจลิส หรือ LAPD และปฏิบัติหน้าที่อย่างแข็งขันมายาวนานกว่า 35 ปี ก่อนที่เขาเพิ่งตัดสินใจอำลาเครื่องแบบตำรวจไปเมื่อปลายปี พ.ศ. 2566 (ค.ศ.2023) ที่ผ่านมา

ย้อนเส้นทาง แอลเอพีดี สายเลือดไทย ข้ามทวีป เพื่อมาเป็นตำรวจอเมริกัน

เส้นทางอันยาวนานของการเป็นตำรวจเชื้อสายไทยในสหรัฐฯ ของ พีท เริ่มต้นจากแรงบันดาลใจที่ชื่นชอบในเครื่องแบบตำรวจที่เห็นในโทรทัศน์ ก่อนจะมีโอกาสเดินทางตามครอบครัวย้ายจากเมืองไทยมาอยู่อเมริกาตั้งแต่เด็ก


“ สมัยก่อนนะครับตอนผมมาอเมริกันใหม่ๆ คุณพ่อคุณแม่มีธุรกิจนะครับ มีร้านอาหารที่เรดแลนด์ (Redlands) กับ ซานเบอร์นาดิโน (San Bernardino ชานนครลอสแอนเจลิส) ตอนนั้นผมก็อยู่ที่นั่นผมก็ช่วยคุณแม่ทำธุรกิจนะครับ แต่ใจไม่รักใจ ผมชอบต่อสู้ ชอบบู๊ๆ ตั้งแต่นั้นน่ะสังเกตฝังใจผมมาตลอด..

..ผมอยากมาเป็นตำรวจ เขาก็เลยโอเค ..เป็นตำรวจสมัยก่อนไม่มีเรื่องอะไรเลย เงียบมากเป็นเมืองที่แบบเมืองเกษียณนะครับ ไปถึงนั่นกว่าจะมีเรื่องจะมีเหตุอะไรเนี่ย วันนึงแบบไม่มีอะไรเลย เพราะผมอยากเป็นตำรวจอยากจะมีอยากจะมีผลงานและอยากมีแอคชั่น ผมก็เลยขอเขามาสมัครเป็นแอลเอพีดี เมื่อปี พ.ศ.2533 (ค.ศ.1988)

เริ่มงาน ตำรวจสายตรวจ ปราบอาชญากร ในแอลเอ

พีท ในวัยเพียง 23 ปี เรียนจบหลักสูตรตำรวจแห่งลอสแอนเจลิส ด้วยคะแนนดีเยี่ยม ได้รับมอบหมายหน้าที่แรกเป็นตำรวจสายตรวจ รับภารกิจแถวหน้าเผชิญเหตุโดยตรง และเข้าพื้นที่ให้เร็วที่สุดทันทีที่รับแจ้งเหตุ พีท บอกว่า งานนี้คืองานยาก ที่ต้องเผชืญอาชญากรรมในทุกรูปแบบ

ผมเรียนจบมา ผมเข้าบรรจุเข้าไปเป็นสายตรวจนะครับ สน.แรกที่ผมไปทำก็คือฝั่งตะวันออกของลอสแอนเจลิส (East LA) แก๊งค์เยอะมากครับ ที่ผมเล่าให้ฟังนะครับ อาชญากรรมเยอะมาก ผมก็ไปทำเขาเรียกว่า สน.(สถานีตำรวจ) ฮอลเลนเบ็ค (Hollenbeck) ผมทำสายตรวจอยู่นั่น ผมทำอยู่ 4 สน.นะครับ ทำ สน.ฮอลเลนเบ็ค (Hollenbeck) นะครับ แล้วก็ สน. ฮอลลีวูด (Hollywood) ซึ่งมีคนไทยอยู่เยอะนะครับแล้วก็สน. แวนนายส์ (Van Nuys) แล้วก็ สน.นอร์ทอีส (North East)

.. ปวดหัวเลยครับเพราะว่าคนยิงกันฆ่ากัน สมัยก่อนนะครับแก๊งค์ ยิงกันฆ่ากันทุกวัน ทุกๆอาทิตย์ ผมจะต้องเอา ไม่มีไม่มีอาทิตย์ไหนที่ผมไม่เห็นศพถูกยิง หัวปั่นเลยครับ อาชญากรรมเยอะมากครับตอนนั้นสมัยปี ค.ศ.1989 นะครับ ราว ๆ พ.ศ.2534”

Pete P Phermsangngam, a Thai-American LAPD officer.
Pete P Phermsangngam, a Thai-American LAPD officer.

อาชีพ ตำรวจ หน้าที่ เสี่ยงตาย!

ใครก็ตามที่อยากเข้ามาเป็นตำรวจมันเสี่ยง เสี่ยงมากนะครับ เราไม่รู้เนี่ยว่าวันไหนเราจะเจออะไร แล้วเราจะอาจจะกลับไปหาคนที่เรารักที่บ้านได้หรือเปล่า..” เจ้าหน้าที่ พีท กล่าว กับ วีโอเอ ไทย

พีท พีรพงศ์ เพิ่มแสงงาม เจ้าหน้าที่ ตำรวจนคร เชื้อสายไทย วัย 58 ปี บอกกับ วีโอเอไทย ถึง ประสบการณ์ของการเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ที่ต้องคอยบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้กับประชาชน ขณะเดียวกันก็ต้องเผชิญกับเหตุไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นระหว่างปฏิบัติหน้าที่ทุกวัน

“ตำรวจที่นี่มีหลายหน่วยงาน ผมทำตั้งแต่ครูสอนศิลปะป้องกันตัว ไปถึงหน่วยยาเสพติด หน่วยยาเสพติดก็ได้ไปปลอมตัวเป็นผู้ร้าย เสี่ยงชีวิตมากครับ เสี่ยงชีวิตมาหลายครั้ง แต่ว่าก็เอาตัวรอดมาได้ แล้วก็มีหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ได้เข้ามาทำหลายหน่วยหลายงานเป็นสิ่งที่ทำผมภูมิใจครับ

..อีกจุดหนึ่งที่ผมภูมิใจในฐานะที่เป็นตำรวจเป็นคนไทยและเป็นตำรวจเข้าไปฝึกตอนนั้น คือ ผมเป็นที่ 1 ในห้องในรุ่นผม ได้ที่ 1 ในการต่อสู้ศิลปะป้องกันตัว เพราะเหตุนี้ครับ พอผมได้มีประสบการณ์ทำสายตรวจทำหน่วยยาเสพติด เคยทำหลายหน่วยมาแล้ว หน่วยแก๊งค์ ผมเลยมาสมัครเป็นครูสอนศิลปะป้องกันตัว ตอนเข้าเป็นครูสอนศิลปะป้องกันตัว เขาก็สัมภาษณ์อีกนะครับ มีสัมภาษณ์อีก ถ้าเกิดคุณเคยนั่งโต๊ะมา ทำนั่งโต๊ะมาตลอด แล้วคุณมาสมัครเป็นครูบางที ครูศิลปะป้องกันตัวเค้าไม่รับนะครับ เขาจะต้องดูว่าคุณจับผู้ร้ายมากี่คน คุณทำหน่วยไหนมา สามารถที่จะอธิบายให้นักเรียนฟังได้ว่าเราผ่านประสบการณ์นั้นมาแล้ว ผมก็เลยได้เข้าไปหน่วยฝึกศิลปะป้องกันตัว และ หน่วย ออกกำลังกายที่โรงเรียนฝึกตำรวจ ของลอสแอนเจลิส..”

ศิลปะแม่ไม้มวยไทย บรรจุในหลักสูตร ร.ร.ฝึกตำรวจ แอลเอ

หลังการคัดเลือกและปรับเปลี่ยน บทบาทเข้ามาเป็นครูฝึกศิลปะการต่อสู้ ในโรงเรียนฝึกตำรวจของลอสแอนเจลิส ความท้าทายสำคัญคือการถ่ายทอดทักษะการต่อสู้ เพื่อให้นักเรียนตำรวจทุกนายนำไปใช้ และเอาชีวิตรอดให้ได้จากสถานการณ์จริง และหนึ่งในทักษะนั้น คือ “แม่ไม้มวยไทย” ที่พีท บอกว่า เคยใช้ทักษะนี้เตะคนร้ายมาแล้ว

“.. ตอนแรกผมเป็นครูใหม่ ผมก็เลยแค่สอนแบบสิ่งที่เขาต้องสอนนะครับ แต่ตอนหลังๆ พอผมเป็นครูอาวุโสแล้ว ผมเลยได้มีโอกาสได้เสนอให้กับคณะฝึกศิลปะป้องกันตัว ผมบอกว่าเอามวยไทยเข้ามาสอนหน่อยสิ เพราะว่ามวยไทยผมเคยเตะผู้ร้ายก็เตะมาแล้ว ใช้มาแล้วมันได้ผลมากกว่าเตะคาราเต้สมัยก่อนเค้าเตะคาราเต้กัน..

Pete P Phermsangngam, a Thai-American LAPD officer.
Pete P Phermsangngam, a Thai-American LAPD officer.

..ผมก็เลยภูมิใจ เป็นจุดนึงที่ผมภูมิใจที่เป็นเจ้าหน้าที่คนไทยคนนึงที่สามารถที่จะเอามวยไทยเขาไปได้ ไม่ใช่เข้าไปง่ายๆ ไม่ใช่อยากจะสอนมวยไทยที่เข้าไปสอนได้เลยนะครับ แล้วเราสอนไม่ใช่มวยไทยแท้ๆ เป็นแค่เตะ เข่า ศอก เบสิก

..แต่กว่าจะสอนได้ ผมต้องเขียนหลักสูตรแผนการสอน (lesson plan) ต้องได้รับแอพพรูป (อนุมัติ) หลักสูตรมาตรฐานในการฝึกตำรวจ คือ Police officer standard of Training หรือ POST ในระดับรัฐ (แคลิฟอร์เนีย) ไม่ใช่มาจากซิตี้ เขาต้องอนุมัติก่อน คุณถึงสอนได้ ผมถึงเอาวิชามวยไทยไปสอน ผมก็เขียนขึ้นมาแล้วได้ผลครับ แล้วตอนนี้เขาก็ยังสอนอยู่ แค่เตะกระสอบกับเข่าครับผม..” พีระพงศ์ เล่าถึงเบื้องหลังการนำศิลปะแม่ไม้มวยไทย เข้าบรรจุในหลักสูตรการเรียนการการสอน ศิลปะป้องกันตัวของ โรงเรียนฝึกตำรวจแห่งลอสแอนเจลิส

จุดเปลี่ยนชีวิตทำงานอีกครั้ง หลังเหตุการณ์วันที่ 11 กันยายน

ตำรวจแอลเอพีดี เชื้อสายไทย พีท เพิ่มแสงงาม ตัดสินใจเปลี่ยนเส้นทางเดินของตัวเองอีกครั้งหลังสูญเสียญาติในเหตุการณ์ ก่อวินาศกรรมวันที่ 11 กันยายน พ.ศ.2544 (ค.ศ.2001) หรือ 9/11

“..ผมมาคิดตอนนั้นผมทำหน่วยยุทธวิธี ผมก็เลยมาคิดว่าเราเป็นตำรวจแล้ว ผมอยากจะเข้าไปใกล้ชิดเกี่ยวกับผู้ก่อการร้ายเรื่องนี้ เรื่องระเบิด เรื่อง counter terrorism (การต่อต้านการก่อการร้าย) ผมก็เลยมั่นมุ่งมั่นฝึกฝนตัวแล้วก็สมัครเข้างานนี้ครับ ซึ่งไม่ใช่เข้าง่ายๆ หน่วยนี้เป็นหน่วยที่เรียกว่าถ้าเกิดมีตำแหน่งหนึ่งเปิดนะครับ คนสมัคร 200 คน ต่อ 1 ตำแหน่ง ต้องแข่งกับเขา ผมก็เลยสามารถที่จะเข้าได้แต่หลังจากครั้งที่ 3-4 ครั้งที่ 4 เขารับผม ผมก็เลยได้เข้ามาหน่วยนี้ครับ เพราะสรุปแล้วเหตุที่ผมเข้ามาในหน่วยเก็บกู้ค้นหาระเบิดนี่ก็คือ เพราะญาติผมเสียชีวิตไปครับ..”

Pete P Phermsangngam, a Thai-American LAPD officer.
Pete P Phermsangngam, a Thai-American LAPD officer.

งานท้าทายใหม่ ตรวจสอบ ค้นหาวัตถุระเบิด

อดีตสายตรวจ และ อดีตครูสอนศิลปะป้องกันตัว ของตำรวจ “แอลเอพีดี” เปลี่ยนสายงานอีกครั้ง เมื่อประสบการณ์มากขึ้น เมื่อหัวใจเรียกร้องให้ออกมาอยู่หน้างาน ที่เขาชอบ

“ ..ผมเป็นคนที่รักบู๊ ชอบสิ่งพวกนี้ ชอบท้าทายตัวเองว่าเราจะจิตใจเราแน่หรือเปล่าที่จะเข้าไปในในหน่วยอย่างนี้เพราะมันต้องมันต้องทดสอบจิตใจจริงๆนะครับ ใจเราต้องแน่นแน่ๆแล้วเราต้องมีสมาธิ ที่จะเข้ามาค้นหาระเบิด ผมก็ชอบทางนี้ครับ..”

“..มันท้ายทายหลายอย่างนะ มันมีหลายหลายเหตุการณ์ที่ท้าทาย บางทีเนี่ยเราเข้าไปเนี่ยทุกๆเหตุการณ์ที่ผมไป เราฝึกมาว่าถึงจะเป็นของจริงหรือไม่จริง เนี่ยเราต้องคิดว่าเป็นวัตถุน่าสงสัยเป็นของจริงหมดเพราะฉะนั้นทุกๆเหตุการณ์ที่ผมเข้าไปเนี่ยมันท้าทายอยู่แล้วเพราะเราไม่รู้ว่ามันจริงหรือปลอมจนกระทั่งเราไปเช็คใช่ไหม

..การค้นระเบิด บางเหตุการณ์ผมเข้าไปแล้วเนี่ยมันเกิดเหตุระเบิดแล้วเนี่ยผมเข้าไปท้าทายมากครับเพราะเราต้องไปหาค้นหาระเบิดจะมีระเบิดที่ 2 ที่ 3 อยู่หรือเปล่าเพราะถ้าเกิดเราเข้าไป ความรับผิดชอบเราสูงนะครับเพราะถ้าเกิดเราเข้าไปแล้วเราหาไม่เจอหรือเราพลาดเนี่ยคนอื่นจะเดือดร้อนครับเพราะฉะนั้นมันเป็นสิ่งที่ผมประทับใจที่ผมเวลาผมเข้าไปเนี่ยผมตั้งใจทำงานครับ

.. ถ้ามีงานกีฬาหรือ พูดง่ายๆถ้าเกิดมีประธานาธิบดีของสหรัฐเนี่ยมาที่แอลเอ ผมจะเข้าไปเคลียร์พื้นที่ก่อนเลยครับ งานผมนี่ใครที่ VIP ไม่ว่าจะรองหรือประธานาธิบดีมาเราจะต้องเข้าไปเก็บพื้นที่ครับ..” พีท เล่าให้ วีโอเอ ไทย ถึงหน้าที่รับผิดชอบในช่วง 10 ปีสุดท้ายของการทำงาน

คู่หู กู้ระเบิด แห่ง บอมบ์ เค 9 (Bomb K9)

สัญชาตญาณการค้นหาและดมกลิ่นของ เจ้าลุยซ่า สุนัข K-9 คู่ใจของพีท เพิ่มแสงงาม คือส่วนสำคัญที่ช่วยให้ภารกิจตรวจสอบและเคลียร์พื้นที่เพื่อความปลอดภัย สำเร็จและลุล่วงได้ง่ายขึ้น ขณะเดียวกันการทำภารกิจเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย และทำงานเป็นทีมอย่างใกล้ชิด ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันตลอด 24 ชั่วโมงกลายเป็นความผูกพันที่งดงามที่หาสิ่งทดแทนไม่ได้

“.. ผมเข้ามาก่อนจะเกษียณครบ 11 ปี ผมคิดว่าโอเค เข้าไปเป็น Bomb K9 ก่อน อีกหน่อยเป็น EOD ก็ได้ แต่หารู้ไม่ พอเราเข้ามาเป็น Bomb K9 ผมหลงรักกับสุนัขครับ แล้วรู้สึกผูกพันกับเขา เป็นดวงครับผมคิดว่าดวงชะตา เค้าจะต้องมาเป็นคู่หูเรานะครับ แล้วดวงชะตาเราต้องมีสุนัข ได้ทำงานกับเขาเนี่ยมันก็เป็นงานที่ตื่นเต้นและเสี่ยงแล้วก็คิดว่าผมผูกพันเสียจนผมตัดสินใจอยู่กับ บอมบ์ เค9 (Bomb K9)

Pete P Phermsangngam, a Thai-American LAPD officer.
Pete P Phermsangngam, a Thai-American LAPD officer.


.. ถึงแม้เทคโนโลยีจะพัฒนะแค่ไหนก็ตาม กี่ปีกี่ปีเขาจะสามารถที่จะทำเครื่องยนต์หุ่นยนต์หรืออะไรก็ตามหน่วย K-9 เขาก็ต้องใช้สุนัข เพราะว่าหมาเข้าไปดมกลิ่น ที่เขาฝึกมา เขาสามารถที่จะดมละเอียดมาก 400 เท่าของมนุษย์ เพราะฉะนั้นถึงยังไงก็ตาม เราต้องพึ่งสุนัขครับ..

พีท ใช้เวลาช่วง 11 ปีสุดท้าย ประจำการบนรถเคลื่อนที่เร็ว สังกัดหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ค้นหาและเก็บกู้วัตถุระเบิด หรือ EOD ร่วมกับเจ้าลุยซ่า สุนัขคู่ใจ ออกลาดตระเวน และเข้าพื้นที่เป็นหน่วยแรก ในภารกิจค้นหา และตรวจสอบวัตถุต้องสงสัย จนถึงวันที่เขาตัดสินใจเกษียณอายุ อำลาภารกิจการพิทักษ์สันติราษฎร์

งานเลี้ยงอำลาในวัน เสร็จสิ้นภารกิจ ‘End Of Watch’

“Officer Pete PhermSangngam Unit 37K972, Sir ! You are now “END OF WATCH”

เสียงวิทยุสื่อสาร จากสำนักงานตำรวจลอสแอนเจลิส ประกาศภารกิจ ‘End of Watch’ หรือ ภารกิจการอำลาอย่างเป็นทางการซซึ่งเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของตำรวจในสหรัฐฯ ได้รับการประกาศอีกครั้ง ในงานเลี้ยงฉลองวันเกษียณอายุเพื่อเป็นเกียรติให้กับ พีท เพิ่มแสงงาม ท่ามกลางเพื่อนร่วมงาน ครอบครัว ชาวชุมชนไทย และเพื่อนพี่น้องทั้งในและนอกวงการตำรวจ ที่เดินทางไปร่วมแสดงความยินดี เมื่อไม่นานมานี้ และถือเป็นการประกาศอำลาอย่างเป็นทางการของนายตำรวจ LAPD เชื้อสายไทย ที่ทำหน้าที่มายาวนาน

ตลอดระยะเวลากว่า 35 ปี ในการเข้ามาทำหน้าที่ตำรวจแอลเอพีดี ของพีท เพิ่มแสงงาม ได้สร้างแรงบันดาลใจสำคัญให้กับตำรวจแอลเอพีดีรุ่นใหม่ รวมถึงเยาวชนไทยที่อาศัยอยู่ทั่วโลก อีกทั้งยังเป็นที่รักของชาวชุมชนไทยในสหรัฐอเมริกา

สะพานเชื่อม ตำรวจแอลเอ กับ ชุมชนไทย

การเป็นตำรวจเชื้อสายไทย ทำให้ เจ้าหน้าที่ พีท เพิ่มแสงงาม มีบทบาทอย่างมากในการทำงานใกล้ชิดกับชุมชนไทย ช่วยประสานงานแนะนำข้อกฎหมายและคดีความในกระบวนการยุติธรรม มาตลอดการทำงานที่ผ่านมา จนกลายเป็นแบบอย่างและแรงบันดาลใจให้กับหลายคน

ตระกูลรักษ์ ศิลปะดุริยางค์ ครูฝึกตำรวจเชื้อสายไทย ศูนย์ฝึกตำรวจนครชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ บอกกับ วีโอเอ ไทย ว่า เขามี นายตำรวจแอลเอ พีท เพิ่มแสงงาม เป็นแรงบันดาลใจ

“.. ง่ายๆ ก็คือผมเดินตามพี่พีท เราคิดเหมือนกัน เราก็ทำงานคล้ายๆกันนะครับ แล้วก็เรื่องสำคัญที่สุดก็คือเราก็ยังพูดภาษาไทยได้แล้ว ก็พยายามช่วยคนไทยนะครับให้มากที่สุด แล้วที่ผมมาได้เห็นวันนี้เป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็นความภูมิใจ // ผมคิดว่าพี่พีทเป็นอิมแพคคนไทยได้มากสุดๆเลยครับ แล้วผมก็คิดว่า ผมจะต้องพยายามทำดีที่สุดเพื่อที่จะตามพี่พีทนะครับก็คือแกก็เป็น ต้นแบบ (Role Model) ให้ผม..” ครูฝึก Track หรือ ตระกูลรักษ์ ตำรวจเชื้อสายไทย แห่ง ชิคาโก พีดี บอกกับ วีโอเอ ไทย ในงานเลี้ยงอำลา พีท ที่ลอสแอนเจลิส


ด้าน จิม แมคโดนัล (Jim McDonnell) อดีตหัวหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ ลอสแอนเจลิส เขตลองบีช (Former Police Chief of Long Beach, California )บอกว่า เจ้าหน้าที่พีท ทำหน้าที่เหมือนสะพานเชื่อมชุมชนไทยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในลอสแอนเจลิส ให้เข้าใจกันมากขึ้น โดยเฉพาะความมุ่งมั่น เสียสละ ทำงานอย่างตรงไปตรงมา ของพีท ที่เป็นแบบอย่างที่ดีเยี่ยมให้กับทุกคน


ด้าน ต่อ ศรลัมพ์ กงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส บอกกับ วีโอเอ ไทย ว่า เจ้าหน้าที่พีท มีบทบาทอย่างมากและเป็นกำลังสำคัญ ในการประสานงาน เชื่อมโยง ช่วยเหลือชุมชนไทย ในลอสแอนเจลิสมาตลอด

“.. คือพี่พีทเป็นคนที่แบบอุทิศตนให้กับทางชุมชนมาโดยตลอดเวลาที่คนไทยมีปัญหานะครับ โดยทำร้ายหรือว่ามีปัญหาในเรื่องของที่ต้องการความช่วยเหลือจากตำรวจ พี่พีทก็จะเข้ามาช่วยประสานงาน ให้ความคุ้มครองและการช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง /..เหนือสิ่งอื่นใด ที่เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ผมว่าที่เป็นที่เป็นจุดสูงสุดของพี่พีท ก็คือปีที่แล้วผมได้มีโอกาสได้รับเกียรติให้ประกอบพิธีรับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ให้กับพี่พีท อันนั้นก็ถือว่าเป็นจุดที่น่าประทับใจเช่นเดียวกันครับ..”


ประสบการณ์ล้ำค่า ที่พร้อมแลกเปลี่ยนและถ่ายทอด

นอกจากบทบาทในการช่วยเหลือชุมชนไทยในสหรัฐอเมริกาแล้ว พีท เพิ่มแสงงาม ยังได้มีส่วนช่วยในการถ่ายทอดประสบการณ์ ความรู้ ที่สั่งสมมาตลอดอายุราชการ ให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ประเทศไทย เพราะเล็งเห็นถึงความสำคัญขององค์ความรู้ ที่ผู้รักษากฎหมาย

พีท พีรพงศ์ เพิ่มแสงงาม ได้รับเชิญร่วมงานวันตำรวจ เมื่อ 13 ตุลาคม 2566
พีท พีรพงศ์ เพิ่มแสงงาม ได้รับเชิญร่วมงานวันตำรวจ เมื่อ 13 ตุลาคม 2566

โดยที่ผ่านมา อดีตนายตำรวจแอลเอพีดี นายนี้ ได้รับเชิญ ไปถ่ายทอดแง่มุมการปฏิบัติหน้าที่ ที่ผ่านมาให้กับหลายหน่วยงานในประเทศบ้านเกิด เพื่อมุ่งหวังที่จะยกระดับการทำงานที่เป็นประโยชน์มากขึ้น

“.. ผมได้กลับไปบรรยายได้ไปสอน แชร์วิชา สอนวิชา ยุทธวิธี ต่อสู้กัน หรือยุทธวิธี ฝึกตำรวจ ผมได้เอากลับไปที่เมืองไทย ผมถืออย่างนี้นะครับ สิ่งที่ผมได้ทำ ไม่ว่าตำรวจการที่อยู่หน่วยฝึก มันเป็นมันเป็นสิ่งสำคัญนะครับ เพราะว่าเราถือว่าถ้าเรารู้จริง เราศึกษามาจริง เรารู้จริง แล้วเราช่วยสามารถช่วยชีวิตคนได้นะครับ เพราะว่าการที่เราสอนยุทธวิธีการต่อสู้ เพราะเคยมีเหตุการณ์ที่ตำรวจมาขอบคุณผมแล้วว่าช่วยเขาได้ เพราะฉะนั้นผมถือว่าเวลาผมไปแลกเปลี่ยนข้อมูลที่เมืองไทยไปสอนตำรวจไทยผมคิดว่ามีประโยชน์..”

Pete P Phermsangngam, a Thai-American LAPD officer.
Pete P Phermsangngam, a Thai-American LAPD officer.

“..ผมถือว่าผมโชคดีมากเลยที่เป็นคนไทยแล้วมาเป็นตำรวจ LAPD เพราะว่าผมได้มีโอกาสได้กลับไปเมืองไทยกลับไปเอาข้อมูลที่ผมได้สอนที่นี่นะครับ เอาข้อมูลไปแลกเปลี่ยนให้กับตำรวจไทย มันเป็นสิ่งที่ถ้าผมอยู่กรมอื่นเนี่ยผมคิดว่าผมอาจจะไม่มีโอกาสได้ทำอย่างนี้..” อดีต นายตำรวจเชื้อสายไทย แห่ง LAPD กล่าวกับ วีโอเอ ไทย ในท้ายที่สุด


การเข้ามาทำหน้าที่ตำรวจแอลเอพีดี ของพีท เพิ่มแสงงาม มีส่วนสร้างแรงบันดาลใจสำคัญให้กับตำรวจแอลเอพีดีรุ่นใหม่ รวมถึงเยาวชนไทยที่อาศัยอยู่ทั่วโลก อีกทั้งยังเป็นที่รักของชาวชุมชนไทยในสหรัฐอเมริกา และเชื่อแน่ว่าในวัย 58 ปี ของพีท หลังจากอำลาชีวิตการเป็นตำรวจ พีท ยังมุ่งมั่นที่จะเดินหน้าใช้ความรู้ความสามารถ และประสบการณ์ที่ผ่านมา สร้างคุณประโยชนร์ และ แรงบันดาลใจให้กับผู้คนอีกมากมายต่อไป

กระดานความเห็น

XS
SM
MD
LG